การรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธี LASIK



การรักษาด้วยวิธีเลสิค 
เลสิค มีประวัติความเป็นมาเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1949 Dr. Barraquer เป็นผู้แรกที่คิดค้นเครื่องมือแยกชั้นกระจกตาเพื่อรักษาภาวะสายตาสั้น และสายตายาว โดยการทำผ่าตัดแยกชั้นกระจกตา นำชั้นกระจกตาที่แยกได้ไปฝน แล้วนำมาเย็บกลับเข้าที่เดิม เป็นการผ่าตัดที่เรียกว่า Keratomileusis ซึ่งในขณะนั้น เครื่องมือมีความซับซ้อนมาก ผลการรักษาก็ยังไม่แม่นยำเท่าที่ควร สำหรับในประเทศไทย ทีมจักษุแพทย์ของ TRSC International LASIK Center เป็นกลุ่มผู้บุกเบิกการผ่าตัดด้วยวิธีเลสิค ในประเทศไทย นำโดย นายแพทย์ เอกเทศ ชันซื่อ ซึ่งเป็นจักษุแพทย์ไทยคนแรกที่ทำการรักษาด้วยวิธีเลสิค เริ่มทำการรักษาวิธีเลสิคครั้งแรกที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ในปี พ.ศ. 2537

เลสิค ( LASIK : Laser In-Situ Keratomileusis)


เลสิค เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ) แบบถาวร โดยใช้เครื่องแยกชั้นกระจกตา Microkeratome แยกชั้นกระจกตาให้มีความหนาประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาของกระจกตาทั้งหมดแล้วใช้ Excimer Laser ขัดเนื้อกระจกตาชั้นกลาง เพื่อเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาโดยรวมแล้วจึงปิดผิวกระจกตาเข้าที่เดิม

การเตรียมตัวก่อนมารับการรักษาเลสิค

หากท่านคิดว่าเลสิคอาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดการพึ่งพาแว่นสายตา หรือคอนแทคเลนส์ของท่าน TRSC ขอแนะนำให้ท่านเข้ารับการตรวจประเมินสภาพตาโดยละเอียดเพื่อรักษาเลสิค ซึ่งมีความสำคัญ สองประการ คือ ประการแรก เพื่อพิจารณาว่าท่านเป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการรักษาเลสิคหรือไม่ ประการที่สอง เพื่อพิจารณาว่าดวงตาของท่านมีสุขภาพตาสมบูรณ์ มีโรคใดๆ หรือไม่ ทั้งนี้ก่อนทำการรักษาเลสิค สำหรับท่านที่ใส่คอนแทนเลนส์ ควรงดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 3 วันก่อนตรวจ สำหรับท่านที่ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (Hard Lens) หรือชนิดกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi Hard Lens) ควรงดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 14 วันก่อนตรวจ ทั้งนี้ คนไข้สามารถใช้แว่นสายตาแทนในระหว่างที่ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์

ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี เลสิค

1. เลสิค เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติอย่างถาวร
2. ใช้เวลาในการผ่าตัดและการพักฟื้นสั้น แผลหายเร็ว
3. สามารถมองเห็นได้ทันทีหลังการผ่าตัด แต่อาจจะยังไม่คมชัดเต็มที่ในวันแรก
4. ไม่ต้องฉีดยาชา เพียงแต่ใช้ยาชาหยอดตา และไม่มีการเย็บแผล
5. กลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่่าตัด

เลสิคกับการเพิ่มคุณภาพชีวิต

1. เลสิคเปิดอิสระแห่งการมองเห็น ลดการพึ่งพาแว่นและคอนแทคเลนส์
2. เลสิคเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพบางอาชีพ เช่น นักบิน แอร์โฮสเตส ทหาร ตำรวจ เป็นต้น
3. เลสิคเพิ่มความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับแว่นหรือคอนแทคเลนส์
4. เลสิคเพิ่มความคล่องตัวในการประกอบกิจกรรม งานอดิเรกหรือกีฬา โดยเฉพาะกีฬา ทางน้ำ และกีฬากลางแจ้ง
5. เลสิคเสริมสร้างบุคลิกภาพ

ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยวิธีเลสิค

1. มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป และมีสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี
2. ไม่มีโรคของกระจกตา เช่น โรคกระจกตาย้วย ตาแห้งอย่างรุนแรง และโรคตาอย่างอื่น เช่น จอประสาทตาเสื่อม หรือโรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรค SLE ,โรค Sjogren's หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการขาดภูมิคุ้มกัน
3. ไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
4. มีความเข้าใจถึงการผ่าตัดด้วยวิธีเลสิคอย่างละเอียด และมีความคาดหวังที่ถูกต้อง

หมายเหตุ : เลสิค เป็น วิธีการผ่าตัดรักษาภาวะสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิดและสายตาเอียง ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามอายุสามารถรักษาได้ด้วยวิธี Near Vision LASIK หรือ NV LASIK

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.lasikthai.com/th/treatment/lasik/default.php

การรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธี FemtoLASIK


Femtosecond LASIK นวัตกรรมใหม่ในการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ
 
Carl Zeiss FemtoLASIK คืออะไร

Femtosecond LASIK คือ การผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธีเลสิค ที่มีความแตกต่างจากการรักษาเลสิคแบบเดิม คือ ในขั้นตอนการแยกชั้นกระจกตาจะใช้แสงเลเซอร์แทนการใช้ใบมีด (Bladeless LASIK) ด้วยเครื่อง Femtosecond Laser รุ่น VisuMax ของ Carl Zeiss ซึ่ง เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้แยกชั้นกระจกตาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เลเซอร์สามารถ Focus ลงไปใต้ผิวกระจกตาด้วยความแม่นยำสูง โดยเลเซอร์จะสแกนไปตามความโค้งของกระจกตา มีการสัมผัสผิวกระจกตาอย่างอ่อนโยน นอกจากผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกสบายตาในระหว่างการผ่าตัดแล้วการใช้ VisuMax Femtosecond Laser ยังสามารถ ลดความคลาดเคลื่อนการแยกชั้นกระจกตา ลดปัญหาผิวกระจกตาถลอก กระจกตาที่แยกได้มีความเรียบ ใช้เวลาในการรักษาน้อย กระจกตาสมานตัวเร็ว การพักฟื้นสั้น ทำให้คุณภาพการมองเห็นหลังการรักษากลับมาเต็มประสิทธิภาพเร็ว

ทำไม TRSC จึงเลือก Carl Zeiss Visumax Femtosecond Laser
ในปัจจุบัน Femtosecond Laser ที่ใช้ในการแยกชั้นกระจกตา ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีผลการรักษาเป็นที่ยอมรับว่าให้ผลการรักษาที่มีประภาพสูง ซึ่งในปัจจุบันมี Femtosecond Laser ที่ผลิต และใช้งาน 3 เครื่องด้วยกัน คือ Intralase จากประเทศอเมริกา, LDV ของบริษัท Ziemer จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์และ Carl Zeiss VisuMax จากประเทศเยอรมันนี

แพทย์ของ TRCS ได้มีการศึกษาการทำงานของเครื่อง Femtosecond Laser ชนิดต่าง ๆ ที่ได้ผลิตขึ้นมา เพื่อใช้ในการรักษาภาวะสายตาผิดปกติให้กับผู้มีปัญหาสายตา จนมีความมั่นใจว่า การใช้ Femtosecond Laser แยกชั้นกระจกตาให้ผลการรักษาที่ดีกว่าการใช้ใบมีดในการแยกชั้นกระจกตา อีกทั้งทีมจักษุแพทย์ของ TRSC มีประสบการณ์ในการใช้เครื่อง Femtosecond Laser มาแล้วทุกเครื่อง และได้ติดตามผลการรักษามาอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่า เครื่อง Carl Zeiss VisuMax Femtosecond Laser เป็น Femtosecond Laser ที่ได้รับการพัฒนามาจนถึงขีดสุดของเทคโนโลยี และเป็นเทคโนโลยีที่ให้ประสิทธิภาพในการรักษาที่สูงกว่า Femtosecond Laser อื่น ๆ



Carl Zeiss VisuMax Femtosecond Laser เทคโนโลยีแห่งอนาคตในการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ

Carl Zeiss Meditec  บริษัทชั้นนำในการผลิตเทคโนโลยีอันทันสมัยทางด้านการรักษาสายตาผิดปกติ
ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี 


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ทำไมต้อง TRSC LASIK?




TRSC ปรารถนาจะมอบความพึงพอใจสูงสุดตลอดไปให้คนไข้ทุกท่าน ด้วยนโยบาย Patient Lifetime Satisfaction ทำให้ TRSC เป็น ศูนย์เลสิค ชั้นนำและเป็น ศูนย์เลสิค แห่งแรกในเอเชีย ที่ได้รับการรับรองระบบคุณภาพ ISO 9001 : 2008 ในด้านมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ และยังได้รับคัดเลือกให้เป็น Superbrands หรือ แบรนด์ในใจของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยพิจารณาจากคุณภาพการรักษา ความน่าเชื่อถือ ความซื่อสัตย์ และการบริการ ที่ประทับใจคนไข้ ด้วยความพร้อมในทุกด้าน ภายใต้ B.E.S.T

Biggest (Biggest Refractive Center in Asia)


     TRSC คือสถานพยาบาลเอกชนเฉพาะทางที่ให้บริการการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ) ด้วยวิธี เลสิค ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ด้วยพื้นที่ให้บริการ 1,700 ตารางเมตร ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่นี้เองทำให้ TRSC สามารถจัดเตรียมความพร้อมในการรักษา และให้บริการที่มีความพร้อมในทุกด้านเพื่อให้ผลการรักษา และการให้บริการคนไข้ได้ดีที่สุด ประกอบด้วย



ห้องผ่าตัด

ห้องผ่าตัด Refractive Surgery ขนาดใหญ่และทันสมัย 5 ห้อง รองรับคนไข้ เลสิค, ต้อกระจก และการใส่เลนส์เสริม ได้อย่างพอเพียง

ห้องตรวจสายตาทันสมัยจำนวน 8 ห้อง

เพื่อให้ผลการตรวจสภาพตาได้ผลที่ถูกต้องแม่นยำ TRSC จึงจัดเตรียมห้องตรวจสายตาที่แยกเฉพาะในแต่ละด้าน ดังนี้ ห้องตรวจวัดสายตา, ห้องตรวจวัดความดันตา, ห้องตรวจความโค้งของกระจกตา และห้องวัดความเพี้ยนแสง รวม 8 ห้อง ที่ให้บริการด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยและแม่นยำที่สุดในขณะนี้

ห้อง Multimedia (ศูนย์วิทยาการด้านเลสิค)

บริเวณรับชมข้อมูล เลสิค ที่กว้างขวางสะดวกสบายโดยให้ความรู้ด้านการรักษาด้วย วิธีเลสิค ในรูปแบบของ Multimedia ให้ผู้สนใจได้เข้าใจได้อย่างง่ายดาย พร้อมจอคอมพิวเตอร์มากกว่า 10 เครื่องไว้คอยให้บริการ

ห้องหยอดตาที่เป็นส่วนตัวและสะดวกสบาย

การตรวจประเมิณสภาพตาก่อนทำเลสิค และการตรวจเช็คสุขภาพตาประจำปี ขั้นตอนที่สำคัญ คือ การหยอดยาขยายม่านตา โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที การหยอดตานั้นอาจมีผลให้คนไข้แสบตา เคืองตา หรืออาจลืมตาไม่ขึ้น ซึ่ง TRSC ได้พิถีพิถันในการเอาใจใส่คนไข้ถึงความไม่สะดวกสบายในขั้นตอนนี้ เราจึงจัดอำนวยความสะดวกสบายในบริเวณห้องหยอดตา ให้มีเก้าอี้นวดบริการในขณะที่คนไข้กำลังรอหยอดตาและขณะหยอดตา เพื่อที่คนไข้จะได้ผ่อนคลายในขณะที่รอการรักษาในขั้นตอนต่อไป อีกทั้งมีการจัดบรรยากาศภายในห้องให้โปร่งโล่ง มองเห็นทิวทัศน์สวนสาธารณะ พร้อมกับกลิ่นหอมผ่อนคลาย เพื่อให้ท่านได้รู้สึกเหมือนนอนรออยู่ภายในบ้านของตนเอง

มุม At Home

TRSC จัดเตรียมเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ให้คนไข้และญาติของคนไข้ในบรรยากาศสบาย ๆ แบบเป็นกันเอง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเครื่องดื่มแบบบริการตนเองที่ท่านสามารถเลือกรับเครื่องดื่มร้อน หรือเย็นได้ ตามใจชอบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เปรียบบรรยากาศที่บ้านของท่านเอง

มุม Internet

TRSC จัดให้บริการ Internet ฟรี สามารถเล่นเกมส์ เช็คอีเมลล์ หรือแม้แต่หาข้อมูลข่าวสารได้ นอกจากนี้เรายังมีการบริการหนังสือพิพม ์และนิตยสารชั้นนำทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศจำนวนมาก ให้ได้เลือกอ่านได้อย่างหลากหลาย

มุม Games Zone

TRSC ได้จัดให้มี Games Zone ไว้สำหรับเด็กๆ ที่มาพร้อมคุณพ่อคุณแม่หรือตัวท่านเอง เพื่อความเพลิดเพลินสำหรับทุกท่านในครอบครัว

พิพิธภัณฑ์แว่นสายตา TRSC

       TRSC ได้ก่อตั้ง “พิพิธภัณฑ์แว่นสายตา TRSC” แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยขึ้น เพื่อเป็นสถานที่เก็บรวบรวมแว่นสายตาอันโปรดของผู้เข้ารับการรักษา เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ และสร้างอนุสรณ์แห่งการกลับมามองเห็นด้วยตาเปล่าอีกครั้งหนึ่ง
        อีกทั้งบุคคลทั่วไปที่สนใจจะได้มีโอกาสศึกษา แว่นสายตาของบุคคลจากหลากหลายสาขาอาชีพ และทราบถึงพัฒนาการของเลสิคในประเทศไทย โดยมีแว่นสายตาของ ฯพณฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นแว่นสายตาอันแรกของทางพิพิธภัณฑ์ ฯ นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการรักษาที่มีแว่นสายตามากกว่า 1 อัน
ยังได้ร่วมสร้างกุศลในการหยิบยื่นโอกาสทางการมองเห็นให้ผู้ด้อยโอกาสในสังคม โดยการมอบแว่นสายตาให้กับ TRSC เพื่อรวบรวมให้ธนาคารแว่นตา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ วัดไร่ขิ

โดยทาง TRSC หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านที่เข้ามารับบริการจะรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่นในบรรยากาศเป็นกันเอง สะดวกสบาย ไม่เหมือนกับมารับบริการในสถานพยาบาลแต่อย่างใด

Experience (The First pioneer team of Refractive surgery specialist)

- ที่ TRSC มีทีมจักษุแพทย์ทางศัลยกรรมกระจกตา และรักษาภาวะสายตาผิดปกติ (Cornea and refractive surgery specialists) ที่เชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงด้านเลสิคมากกว่า 11 ป ีและเป็นทีมแพทย์ผู้บุกเบิกการผ่าตัดด้วยวิธีเลสิค (LASIK) ในประเทศไทยเป็นแห่งแรกภายใต้การนำของ นายแพทย์เอกเทศ ชันซื่อ จักษุแพทย์ผู้ทำการรักษาเลสิคท่านแรกในไทย มีประสบการณ์การรักษาเลสิคมากกว่า 40,000 ตา

- ทีมจักษุแพทย์้ผ่านการศึกษาเฉพาะทางด้านศัลยกรรมกระจกตา ได้รับการฝึกอบรมจากต่างประเทศ เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา ท่านจึงมั่นใจได้ว่า ทุกขั้นตอนการรักษาจะได้รับการดูแลจากทีมแพทย์เฉพาะทาง ระดับนานาชาติ ผู้รู้จริงเรื่อง เลสิค

- ทีมบริหารเป็นผู้มีประสบการณ์ในการบริหารเลสิคเซนเตอร์เป็นแห่งแรกของประเทศไทยโดยเฉพาะ และมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่ได้รับการฝึกอบรมและสอบมาตรฐานในการทำงานของ TRSC ก่อนจะให้บริการแก่ผู้เข้ารับการรักษา

- ผลการรักษา เมื่อเปรียบเทียบกับ FDA ของสหรัฐ แล้ว TRSC มีผลสำเร็จของการรักษาที่ประสบผลสำเร็จในเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่า

Service (TRSC First Class Service)

- "Patient Lifetime Satisfaction" คือหัวใจของการให้บริการของ TRSC บุคลากรผู้เชี่ยวชาญทุกคนพร้อมให้คำปรึกษา ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด และพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ทั้งก่อนและหลังการรักษา เพื่อสร้างความเป็นเลิศในด้านการให้บริการที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ และมั่นใจได้ว่าผู้เข้ารับการรักษาจะได้รับความพึงพอใจในการดูแลสูงสุด อย่างต่อเนื่องตลอดไป

- TRSC มีทีมที่ปรึกษาคนไข้ที่ได้รับการอบรมความรู้ด้าน เลสิค และการให้บริการมาเป็นอย่างดี สามารถให้คำแนะนำ และตอบคำถามเกี่ยวกับการรักษาให้แก่ท่านได้ ทั้งนี้ทีมที่ปรึกษาคนไข้ของ TRSC จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรการดูแลคนไข้เฉพาะตามมาตรฐานของ TRSC และมีการอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดูแลคนไข้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

-TRSC มีทีมงาน Call Center มืออาชีพที่ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาสายตาผิดปกติได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ท่านได้มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ตลอดจนให้คำแนะนำ และตอบปัญหาอย่างรวดเร็ว แม่นยำ ครบถ้วนภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ในรูปแบบของ One Stop Service

- TRSC LASIK Educational Center ศูนย์วิทยาการด้าน เลสิค ที่ให้ข้อมูล เลสิค และความรู้เกี่ยวกับดวงตาที่ละเอียดครบถ้วน นำเสนอด้วยระบบ Interactive Multimedia สมบูรณ์แบบทั้งภาพและเสียง
- เมื่อท่านเข้ามาที่ TRSC ท่านจะมีที่ปรึกษาประจำตัวท่าน ผู้ซึ่งจะคอยดูแลท่านระหว่างที่ท่านอยู่ในศูนย์ เพื่อรับการตรวจและการรักษา และท่านสามารถโทรสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง TRSC ภูมิใจที่เป็นศูนย์เดียวที่ให้บริการนี้

- นอกเหนือจากคอยดูแลท่านแล้ว ที่ปรึกษายังคอยช่วยเหลือท่านในการเตรียมการเดินทาง ช่วยเตรียมผลการตรวจให้แก่ท่าน และยังบริการเตือนท่านล่วงหน้า หากท่านมีนัดต้องเข้ามารับการตรวจทั้งก่อนและหลังการรักษา

Technology (The Most Advance Refractive Technology)

- ทีมแพทย์ของ TRSC พิถีพิถันในการเลือกเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีเทคโนโลยีดีที่สุด เรามีเครื่องเลเซอร์ให้เลือก ตามความเหมาะสมกับผู้รับการรักษาแต่ละท่าน ทุกเครื่องได้รับการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความแม่นยำ, และให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

- TRSC มีเครื่องแยกชั้นกระจกตา (Microkeratome) ที่เหมาะสมกับขนาดตาของผู้รับการรักษาแต่ละท่าน แต่ละชนชาติ พร้อมเครื่องวัดความโค้งและความหนากระจกตา และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมายที่สมบูรณ์แบบครบวงจร ในการตรวจประเมินสภาพตาก่อนทำการรักษา เลสิค

- การบันทึกข้อมูลผู้รับการรักษาด้วยระบบ Computer on-line ซึ่งเชื่อมโยงกันทั้งศูนย์ ข้อมูลการรักษาไม่คลาดเคลื่อน


 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.lasikthai.com/th/why_choose_trsc/default.php

15 คําอวยพรวันคริสต์มาสภาษาอังกฤษพร้อมคําแปล

ใกล้จะถึงเทศกาลคริสต์มาสแล้ว ใครหลาย ๆ คนโดยเฉพาะชาวคริสต์ คงจะถึงเวลาจะต้องเขียนคำอวยพรวันคริสต์มาสส่งถึงญาติ เพื่อน ๆ และคนรู้จักกันแล้ว และตอนนี้เชื่อว่าคงจะมีหลายคนที่ยังคิดคำอวยพรไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มต้นด้วยคำไหนดีแน่นอน วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอรวบรวมคำอวยพรเทศกาลคริสต์มาสภาษาอังกฤษ พร้อมกับคำแปลมาฝากกันค่ะ




You are special, you are unique; may your Christmas be also as special and unique as you are! Merry Christmas!
คุณเป็นคนพิเศษ คุณไม่เหมือนใคร ขอให้คริสต์มาสของคุณพิเศษแบบไม่เหมือนใครอย่างที่คุณเป็น สุขสันต์วันคริสต์มาส  



 Here's wishing you all the joys of the season. Wish you and your family a Merry Christmas!
ขอให้คริสต์มาสของคุณเต็มไปด้วยความสนุก ขอให้คุณและครอบครัวมีความสุขในวันคริสต์มาส 



 Sending the warmest Christmas wishes to you and your family. May God shower his choicest blessings on you and your family this Christmas!
ขอส่งคำอวยพรอันอบอุ่นที่สุดแด่คุณและครอบครัว ขอให้พระเจ้าทรงโปรยพรอันวิเศษที่สุดให้คุณและครอบครัวในคริสต์มาสนี้


 May Christ bless you with all the happiness and success you deserve! Merry Xmas!

ขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานพรแด่คุณ ด้วยความสุขและความสำเร็จที่คุณคู่ควร สุขสันต์วันคริสต์มาส



 May your world be filled with warmth and good cheer this Holy season, and throughout the year! Wish your Christmas be filled with peace and love. Merry Xmas. 
ขอให้โลกของคุณเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความสดชื่น ในเทศกาลอันศักดิ์สิทธิ์นี้ และตลอดปีตลอดไป ขอให้คริสต์มาสของคุณเต็มไปด้วยสันติภาพและความรัก สุขสันต์วันคริสต์มาส


 May the Christmas season fill your home with joy,
your heart with love and your life with laughter.

ขอให้เทศกาลคริสต์มาสเต็มเติมความสนุกให้บ้านของคุณ
เต็มเติมหัวใจด้วยความรัก และเติมเต็มชีวิตด้วยเสียงหัวเราะ


 May the miracle of Christmas fill your heart with warmth and love.
Christmas is the time of giving and sharing.
It is the time of loving and forgiving.
Merry Christmas!


ขอให้ปาฏิหาริย์แห่งคริสต์มาสเติมหัวใจคุณด้วยความอบอุ่นและความรัก
คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาของการให้และการแบ่งปัน
เป็นช่วงเวลาแห่งความรักและการให้อภัย
สุขสันต์วันคริสต์มาส



 Santa Claus is coming along with a rainbow of gifts especially for you.
Wish you a Merry Christmas.


ซานตาคลอสกำลังเดินทางมาพร้อมกับสายรุ้งแห่งของขวัญสำหรับคุณโดยเฉพาะ
สุขสันต์วันคริสต์มาส




 Merry Christmas. Hope Santa gives you what you wish for.

สุขสันต์วันคริสต์มาส ขอให้ซานตาคลอดมอบของขวัญที่คุณอยากให้แด่คุณ


 May the peace and blessings of Christmas be yours.
May the coming year be filled with happiness.

ขอให้สันติภาพและสิ่งดี ๆ จงอยู่กับคุณ
ขอให้ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นปีที่เต็มไปด้วยความสุข


 May your life be colorful magnificent,shimmering and joyful.
Merry Christmas.

ขอให้ชีวิตของคุณงดงาม มีสีสัน และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
สุขสันต์วันคริสต์มาส


 May you receive all the love and happiness you deserve this Christmas.
Merry Christmas!

ขอให้ได้รับความรักและความสุขที่ควรค่าแด่คุณในคริสต์มาสนี้
สุขสันต์วันคริสต์มาส


 Christmas brings new hope for all of us.
I hope and pray that you will be able to fulfill your dreams.
May God bless you always!

คริสต์มาสนำความหวังใหม่มาให้เรา
ฉันหวังและขอให้สมหวังในสิ่งที่ใฝ่ฝัน
ขอให้พระเจ้าประทานพรให้คุณเสมอ


 May your Christmas be joyful.
May your New Year be hopeful.
May you receive all your heart’s desires.

ขอให้คริสต์มาสของคุณเปี่ยมไปด้วยความสุข
ขอให้ปีใหม่ของคุณมีแต่ความสมหวัง
ขอให้คุณได้รับทุกอย่างที่หัวใจต้องการ


 May this Christmas shine with moments of love, laughter and friendliness
and may the coming year bring you contentment and joy.
Have a Merry Christmas.

ขอให้คริสต์มาสนี้ส่องประกายไปด้วยความรัก เสียงหัวเราะ และมิตรภาพ
และขอให้ปีที่กำลังจะมาถึง นำพาความสุขและความสบายใจมาให้คุณ
สุขสันต์วันคริสต์มาส



          ก็หวังว่าตัวอย่างคำอวยพรที่เรานำมาฝากกันวันนี้ คงจะทำให้ใครหลายคนมีไอเดียในการนำไปปรับใช้ และท้ายนี้ กระปุกดอทคอมก็ขออวยพรให้คริสต์มาสนี้ของทุกคน เต็มไปด้วยความสนุกสดใส เบิกบานใจ และยิ้มต้อนรับปีใหม่ไปพร้อม ๆ กันนะคะ


ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก kapook

ไหว้พระ 9 วัดเสริมสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ 2556

สำหรับปีใหม่ 2556 ปีมะเส็งนี้ ใครที่อยากเสริมเป็นสิริมงคลแก่ตนเองการไหว้พระ 9 วัด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณสามารถทำได้ค่ะ และวันนี้ทาง Sanook! Horoscope ได้รวบรวมวัดทั้ง 9 รวมไปถึงวิธีการลักการะบูชา การเดินทาง มาไว้ให้ชาว Sanook! Horoscope ได้เตรียมให้พร้อมก่อนไปทำบุญสักการะไหว้พระ 9 วัดกันค่ะ



1. ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร (เวลาเปิด-ปิด 05.30 - 19.30 น.)
ไปสักการะ "เทพารักษ์ทั้ง 5" คือ พระเสื้อเมือง, พระทรงเมือง, พระกาฬไชยศรี, เจ้าพ่อเจตคุปต์, เจ้าพ่อหอกลอง เพื่อ "ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี" ไหว้ เสาหลักเมืององค์จำลอง ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้าแพร 3 สี ดอกบัว และไหว้องค์จริงด้วยพวงมาลัย
สถานที่ตั้ง อยู่บริเวณหัวมุมสวนหลวง ข้างพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 47, 53, 64, 80, 82, 91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 503,508, 512


2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว(เวลาเปิด-ปิด 08.30 - 16.00 น.)
ไหว้พระแก้วมรกต พระพุทธรูปสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เป็นศูนย์กลางความศรัทธาไทย - ลาว เพื่อความเป็นสิริมงคล"ไหว้พระแก้วมรกต แก้วแหวน เงินทองไหลมาเทมาตลอดปี" ด้วยธูป เทียน ดอกบัวคู่
สถานที่ตั้ง อยู่ในพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร 
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 53, 59, 64, 80, 82,91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 501, 503, 508, 512


3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
นมัสการพระพุทธไสยาสน์อันศักดิ์สิทธิ์ (ที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้างประดับมุก ลวดลายภาพมงคล 108 ประการ) เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระนอนวัดโพธิ์ ร่มเย็นเป็นสุข อยู่ดีกินดีตลอดปี" ด้วยธูป 9 ดอก เทียนแดงคู่ ทองคำเปลว 11 แผ่น
สถานที่ตั้ง หลังพระบรมมหาราชวัง ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร 
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 43, 44, 47, 53, 60, 82, 91, 123,รถปรับอากาศ สาย 501, 508


4. ศาลเจ้าพ่อเสือ (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ไปสักการะ เจ้าพ่อเสือ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม ฯลฯ เพื่อเสริม "อำนาจบารมี" ด้วยธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ พวงมาลัย 1 พวง "ศาลเจ้าเก่าแก่ของลัทธิเต๋า" หนึ่งในสามมหาสถานของพระนครที่ชาวจีนต้องสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล "เสริมอำนาจบารมี"
สถานที่ตั้ง ถนนตะนาว แขวงเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร 
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 10, 12, 19, 35, 42, 56, 96


5. วัดสุทัศน์เทพวราราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ไหว้พระองค์ประธาน (พระศรีศากยมุณี) ที่เก่าแก่ ซึ่งอดีตเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุของกรุงสุโขทัย เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดสุทัศนฯ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป" ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม ดอกบัวหรือพวงมาลัย
สถานที่ตั้ง บริเวณเสาชิงช้า ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 10, 12


6. วัดชนะสงคราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ต้องไปสักการะ "พระประธาน" ในพระอุโบสถ และ "สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา)" ผู้นับถือความซื่อสัตย์ ด้วย ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก มีความเชื่อว่า "จะมีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง" "ไหว้พระวัดชนะสงคราม อุปสรรคร้ายพ่ายแพ้"
สถานที่ตั้ง ถนนจักรพงษ์ แขวงบางลำพู เขตพระนคร 
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 3, 6, 9, 15, 30, 32, 33, 43, 53, 64, 65, 82, 123 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 6, 509


7. วัดระฆังโฆษิตาราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
สักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระประธานที่วัดระฆัง อ่านคาถาชินบัญชร เพื่อความเป็นสิริมงคล"ไหว้พระวัดระฆัง มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 3 แผ่น หมากพลู
สถานที่ตั้ง ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย 
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 19, 57, 83 ท่าเรือ เรือด่วนเจ้าพระยา ลงท่ารถไฟหรือท่าวังหลังก็ได้ หรือลงเรือข้ามฟากจากท่าช้างไปท่าวัดระฆัง


8. วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ไหว้พระปรางค์วัดอรุณฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดอรุณ ชีวิตโรจน์รุ่ง ทุกวันคืน" ต้องไปสักการะ "พระประธาน" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่ และต้องไปเดินทักษิณาวัตรรอบ "พระปรางค์" อีก 3 รอบ เพื่อ "ชีวิตรุ่งโรจน์"
สถานที่ตั้ง ข้างกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ 
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 19, 57, 83 ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าเตียนขึ้นที่ท่าวัดอรุณ


9. วัดกัลยาณมิตร หรือวัดซำปอกง (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ไหว้หลวงพ่อซำปอกง (พระพุทธไตรรัตนนายก) พระโตริมน้ำตามตำนาน กรุงศรีอยุธยา ณ วัดกัลยาณมิตร เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้หลวงพ่อซำปอกง โชคดีมีชัยปลอดภัยตลอดปี" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่
สถานที่ตั้ง แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี 
การเดินทาง โดยรถประจำทาง สาย 3, 4, 7, 7ก, 9, 21, 37, 56, 82 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 7, 21, 82 (นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างจากโรงเรียนศึกษานารี เข้ามาที่วัดเพราะรถ ประจำทางเข้าไม่ถึง) ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าปากคลองตลาดขึ้นท่าวัดกัลยาณมิตร เพื่อความสะดวกควรเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หรือบริการขนส่งสาธารณะ เนื่องจากสถานที่จอดรถมีจำกัดมาก

การได้ไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนั้นไม่จำเป็นต้องไปในวันพิเศษทางศาสนาเท่านั้น หากสามารถไปนมัสการได้ทุกเมื่อ ซึ่งการไปนมัสการนี้ ไม่เพียงจะก่อให้เกิดความสบายใจเท่านั้น หากยังเป็นกุศโลบายที่สร้างความเชื่อมั่นในการพาชีวิตก้าวเดินต่อไปในอนาคต ด้วยสัญญาใจที่ให้ไว้กับตัวเอง และถ้าไม่มุ่งมั่นในการโกย "มงคล" เกินไป เวลานั้นน่าจะเป็นเวลาทองที่ได้ซึมซับความสงบสุข ความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก wikipedia
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook

วิธีการดูแลรักษาสุขภาพตา - วีธีเลือกแว่นกันแดด






                    จุดประสงค์ของการสวม แว่นกันแดด ไม่ใช่เพื่อป้องกันดวงตาจากแสงแดดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตอีกด้วย ดังนั้นเลนส์ที่ใช้ในแว่นกันแดดจึงควรสามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้ นอกจากนั้นไม่ควรใส่แว่นกันแดดสีดำ ซึ่งไม่มีเลนส์ที่สามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้ เนื่องจากเลนส์สีดำจะทำให้ม่านตาขยาย ซึ่งทำให้รังสีอัลตราไวโอเลตเข้ามายังดวงตาได้มากขึ้น
             แว่นกันแดด ที่ ดีควรจะมีความโค้งเข้ากับด้านข้างของใบหน้าเพื่อให้ได้รับการป้องกันสูงสุด สำหรับสีของเลนส์นั้นสามารถเลือกได้ตามความชอบของผู้สวม เลนส์สีเทาจะทำให้เห็นภาพได้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด แม้ว่าความชัดเจนจะลดลงในที่มีแสงน้อย เลนส์สีเขียวจะทำให้มองเห็นสีผิดเพี้ยนไปจากธรรมชาติ และเลนส์สีน้ำตาลหรือสีอำพันจะทำให้เห็นสีไม่ผิดเพี้ยนไปมากจากธรรมชาติ แต่จะทำให้มองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น


ทีมแพทย์ TRSC

วิธีการดูแลรักษาสุขภาพตา - รังสี UV และการป้องกัน



รังสีอัลตราไวโอเลตกับดวงตา


            
ประเทศไทยเป็น ประเทศที่อยู่ในเขตร้อน ซึ่งมีแสงแดดแรงตลอดทั้งปี การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์มากเกินไป สามารถทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคทางตาได้สูงกว่า เช่น ต้อเนื้อ ต้อกระจกบางชนิด และโรคจอประสาทตาเสื่อม (AMD) ก่อให้เกิดปัญหาที่รุนแรงในการมองเห็นซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา
            เพราะ ฉะนั้น วิธีป้องกันโรคทางตาที่เกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลตที่ดีที่สุด คือ การใส่หมวกปีกกว้าง หรือใส่แว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ห้ามจ้องมองไปยังดวงอาทิตย์โดยตรง เช่น ขณะขับรถในเวลากลางวัน ช่วงเวลาที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือช่วง 10.00-14.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงที่รังสีอัลตราไวโอเลตมีความรุนแรงมากที่สุด

ทีมแพทย์ TRSC